loading...
#อึ้งกันทั้งงาน…!! โห่ขันหมากมาสู่ขอดิบดี จังหวะนับสิ้นสอดเจอเจ้าสาวทักคำเดียว เจ้าบ่าวลุกหนีเก็บสิ้นสอดขึ้นรถกลับทันที ไม่ต่งไม่แต่งมันแล้ว..!?
loading...
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 มิถุนายน ชาวบ้านพร้อมญาติพี่น้องพา น.ส.เอ(นามสมมุติ) ชาวบ้าน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เจ้าสาวและเป็นหลานสาวเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เด่นชัย ชำนาญในเมือง รอง ผกก.สส.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังถูกเจ้าบ่าว อายุ 24 ปี พร้อมญาติพี่น้องชาวจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวหอบเงินสินสอดหนีไปจากการสอบถามป้าของ น.ส.เอ เจ้าสาว เล่าว่า หลานสาวของตนคือเจ้าสาว ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเอไอเอส อยู่ที่กรุงเทพฯและได้คบหาดูใจกับเจ้าบาว ซึ่งเป็นชาวจังหวัดพิจิตร มาได้สักระยะหนึ่งหลังจากทั้งคู่ได้รู้จักกันที่กรุงเทพฯและได้ตกลงแต่งงานกันโดยผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้คุยปรึกษาหารือกันและผู้ใหญ่ทางฝ่ายหญิงได้เรียกค่าสินสอดทองหมั้นเป็นเงิน 1 แสนบาท กับทองคำหนัก 1 บาท
loading...
ฝ่ายชายก็ตกลงตามนั้น และมีกำหนดจัดงานแต่งงานขึ้นที่บ้านพุทรา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าสาว ในเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2560 โดยทางเจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญให้กับแขกประมาณ 100 ใบ และจ้างโต๊ะจีนกว่า 50 โต๊ะโดยลงทุนจัดงานเป็นเงินนับแสนบาท พอถึงเวลาที่กำหนดเจ้าบ่าวและญาติประมาณ 20 คน ได้เดินทางมาด้วยรถตู้ รถเก๋งและรถกระบะรวม 5 คัน ถึงบ้านเจ้าสาว และพิธีแต่งงานได้เริ่มขึ้นตามประเพณีมีการแห่ขันหมากและกั้นประตูเงิน ประตูทอง แต่พอถึงช่วงนับเงินสินสอดปรากฏว่าในขันหมากมีเงินสดเพียง 5 หมื่นบาท และทองคำหนัก 1 บาท เงินสินสอดขาดไป 5 หมื่นบาท ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้ตกลงคุยกันโดยทางฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าถ้าเงินไม่พอก็ให้นำมาเพิ่มให้ทีหลังไม่ได้ว่าอะไร แต่ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวยืนยันว่าจะให้แค่นี้ คือ เงิน 5 หมื่น และทอง 1 บาท จะไม่มีการเพิ่มให้อีก
loading...
ส่งผลให้ฝ่ายเจ้าสาวไม่พอใจ ว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ จึงให้ฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปคุยปรึกษาหารือกันอีกครั้งที่หน้าบ้าน ฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปนั่งคุยกันสักพักแล้วก็พากันเดินออกไปขึ้นรถและขับออกจากงานไป พร้อมกับนำเงินสินสอดและสร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 1 บาทไปด้วย ทำให้เจ้าสาวถึงกับเป็นลมล้มพับญาติๆ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล พอฟื้นขึ้นมาญาติเจ้าสาวจึงรีบนำตัวเเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พิมาย ให้ช่วยติดตามตัวเจ้าบ่าวให้มารับผิดชอบกับการกระทำที่ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องเสียหายอับอายแขกที่มาร่วมงานจำนวนมาก รวมทั้งให้มารับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายเจ้าสาวเสียไปด้วย ขณะที่กำลังให้ปากคำกับตำรวจอยู่นั้นญาติทางฝ่ายเจ้าสาวได้ติดต่อกับเจ้าบ่าวทางโทรศัพท์และเรียกให้กลับมาเจรจากันที่สถานีตำรวจพิมายแต่ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอมจนมีการโต้เถียงกันทางโทรศัพท์อีกครั้ง ในที่สุดฝ่ายเจ้าบ่าวได้ปิดโทรศัพท์และเดินทางกลับ จ.พิจิตร ทันที
พ.ต.ท.เด่นชัย ชำนาญในเมือง รอง ผกก.สส.สภ.พิมาย เปิดเผยว่า ตำรวจจะเรียกฝ่ายเจ้าบ่าวมาพูดคุยตกลงกันกับฝ่ายเจ้าสาวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดงานแต่งงานโดยจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าสาวต้องการให้เจ้าบ่าวมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ส่วนเงินสินสอดนั้นทางเจ้าสาวและญาติๆ ไม่ติดใจอะไรและได้แจ้งล้มเลิกงานแต่งงานให้ฝ่ายเจ้าบ่าวทราบไปแล้ว
loading...
ที่มา:khaolike.info/archives/2011
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น