Latest News

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วิวาห์อีกครั้งไม่มีล่ม!!! สาวโคราชใจชื้น! หลังเจ้าบ่าวยอมชดใช้ค่าเสียหาย แถมย้ำ! เตรียมจัดวิวาห์รอบสองให้ชื่นมื่นอีกครั้ง!! (รายละเอียด)

loading...

วิวาห์อีกครั้งไม่มีล่ม!!! สาวโคราชใจชื้น! หลังเจ้าบ่าวยอมชดใช้ค่าเสียหาย แถมย้ำ! เตรียมจัดวิวาห์รอบสองให้ชื่นมื่นอีกครั้ง!! (รายละเอียด)
loading...
จากกรณีเหตุการณ์เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. นางบี (นามสมมติ) อายุ 64 ปี อยู่หมู่ 5 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมญาติพี่น้องพา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี อยู่หมู่ 14 บ้านพุทรา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลานสาวและเป็นเจ้าสาว เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เด่นชัย ชำนาญในเมือง รองผกก.สส.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังถูกนายเอก (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พร้อมญาติพี่น้องชาวจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวหอบเงินสินสอดหนีไป
 โดยเจ้าสาวหรือ น.ส.เอ ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง อยู่ที่กรุงเทพฯ และได้คบหาดูใจกับนายเอก ชาวจังหวัดพิจิตรเจ้าบ่าวมาได้สักระยะหนึ่ง หลังจากทั้งคู่ได้รู้จักกันที่กรุงเทพฯ และได้ตกลงแต่งงานกันโดยผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้คุยปรึกษาหารือกันและผู้ใหญ่ทางฝ่ายหญิงได้เรียกค่าสินสอดทองหมั้นเป็นเงิน 1 แสนบาทกับทองคำหนัก 1 บาท ฝ่ายชายก็ตกลงตามนั้น และมีกำหนดจัดงานแต่งงานขึ้นที่บ้าน หมู่ 14 บ้านพุทรา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าสาว ในวันนี้ ( 24 มิ.ย. 60) แต่ไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้เจ้าบ่าวจึงหอบสินสอดกลับไป
loading...


 ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการแจ้งความและทางญาติฝ่ายเจ้าสาวคนหนึ่งได้ติดต่อญาติเจ้าบ่าวสำเร็จ โดยติดต่อไปเพื่อต้องการคำตอบในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการแต่งงานครั้งนี้ แต่ทางญาติเจ้าบ่าวกลับตอบว่า ถ้าจะเรียกร้องค่าเสียหายงานแต่งงานให้ไปฟ้องร้องเอาเอง  และฝ่ายชายจะไม่กลับไปจัดงานแต่งงานอีกครั้งเด็ดขาด

loading...
และล่าสุด!! เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ทางด้านบ้านของฝ่ายเจ้าสาวได้มีการเก็บข้าวของ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดงานแต่งงานคืน และทางด้านนายบุญสวน (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี พ่อของเจ้าสาวเล่าว่า ได้เปิดเผยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นครอบครัวของตนรู้สึกเสียใจมาก สาเหตุเกิดจากความไม่เข้าใจของญาติทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนตนและภรรยาซึ่งเป็นพ่อกับแม่เจ้าสาวนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร คุยกันเข้าใจแล้วแต่ญาติก็อารมณ์ร้อนกันทั้ง 2 ฝ่าย 


ด้วยความรักที่มีต่อทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวจนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น ตนรักและสงสารลูกมากเพราะเขาต้องทำงานที่ต้องพบปะผู้คนมากมาย พ่อและแม่ก็ได้แต่ปลอบและให้กำลังใจลูก และตอนนี้ลูกสาวก็เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพแล้ว ส่วนการเจรจาพูดคุยกับทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็ตกลงกันได้ด้วยดีเมื่อคืนนี้คือฝ่ายเจ้าบ่าวยินดีจะมาชดใช้ค่าเสียหายและจะมาทำพิธีการแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีโดยจะจัดงานเล็กๆ เฉพาะในครอบครัวของเราเท่านั้น แต่รอให้ทุกอย่างลงตัวและสถานการณ์ต่างๆดีขึ้นก่อนเพราะทั้งสองคนเขายืนยันว่ายังรักกันดี
loading...
“ผมต้องกราบขอโทษแขกและญาติๆที่มาร่วมในงานแต่งงานลูกสาวของผมและเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ผมขอรับผิดแทนลูกและก็หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจและให้อภัยครอบครัวของผม” นายบุญสวนกล่าว


 ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนเกิดเรื่องทางเจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญให้กับแขกประมาณ 100 ใบ และจ้างโต๊ะจีนกว่า 50 โต๊ะ โดยลงทุนจัดงานเป็นเงินนับแสนบาท พอถึงเวลาที่กำหนดเจ้าบ่าวและญาติประมาณ 20 คนได้เดินทางมาด้วยรถตู้ รถเก๋งและรถกระบะรวม 5 คัน ถึงบ้านเจ้าสาว และพิธีแต่งงานได้เริ่มขึ้นตามประเพณี มีการแห่ขันหมากและกั้นประตูเงินประตูทอง แต่พอถึงช่วงนับเงินสินสอดปรากฏว่าในขันหมากมีเงินสดเพียง

loading...
ทางฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าถ้าเงินไม่พอก็ให้นำมาเพิ่มให้ทีหลังไม่ได้ว่าอะไร แต่ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวยืนยันว่าจะให้แค่นี้คือเงิน 5 หมื่น และทอง 1 บาท จะไม่มีการเพิ่มให้อีก ทำให้ฝ่ายเจ้าสาวไม่พอใจ ว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ จึงให้ฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปคุยปรึกษาหารือกันอีกครั้งที่หน้าบ้าน ฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปนั่งคุยกันสักพักแล้วก็พากันเดินออกไปขึ้นรถและขับออกจากงานไป พร้อมกับนำเงินสินสอดและสร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 1 บาทไปด้วย ทำให้เจ้าสาวถึงกับเป็นลมล้มพับญาติๆ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล
 พอฟื้นขึ้นมาญาติเจ้าสาวจึงรีบนำตัวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พิมาย ให้ช่วยติดตามตัวเจ้าบ่าวให้มารับผิดชอบกับการกระทำที่ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องเสียหายอับอายแขกที่มาร่วมงานจำนวนมาก รวมทั้งให้มารับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายเจ้าสาวเสียไปด้วย ขณะที่กำลังให้ปากคำกับตำรวจอยู่นั้น ญาติทางฝ่ายเจ้าสาวได้ติดต่อกับเจ้าบ่าวทางโทรศัพท์และเรียกให้กลับมาเจรจากันที่สถานีตำรวจพิมาย แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอม จนมีการโต้เถียงกันทางโทรศัพท์อีกครั้ง ในที่สุดฝ่ายเจ้าบ่าวได้ปิดโทรศัพท์และเดินทางกลับ จ.พิจิตร ทันที
loading...
ส่วนทางด้านพ.ต.ท.เด่นชัย ชำนาญในเมือง รองผกก.สส.สภ.พิมาย ได้เปิดเผยว่า จนป่านตั้งแต่มาแจ้งความ ยังไม่ได้รับการติดต่อทางฝ่ายเจ้าสาวและฝ่ายเจ้าบ่าวแต่อย่างใด ว่าสามารถตกลงกันได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และถือว่าเป็นคดีแพ่ง ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมความกันได้


loading...


ที่มา:jangkhaonews

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น