Latest News

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

เจอดีแล้วไง!! กรณี "พ่อแท้ๆพรากหลานจากอกยาย" ล่าสุด "ทนายเกิดผล" ออกมาโพสต์แบบนี้ ดูไว้นะ!! (มีคลิป)

loading...
ใช้กฎหมายหรือใช้หัวใจ!? ดราม่า"พ่อแท้ๆพรากหลานจากอกยาย" ล่าสุด "ทนายเกิดผล" ออกมาบอกชี้ชัดๆ กระจ่าง! (รายละเอียด)
จากที่มีคลิปดังกรณีพ่อและว่าที่แม่เลี้ยง ฉุดกระชากลากดึงเด็กหญิงฝาแฝด เพื่อให้ขึ้นรถยนต์เดินทางกลับไปกรุงเทพมหานคร โดยอ้างว่าจะนำไปเลี้ยงดูแลต่อ ทั้งที่เมื่อก่อนนับตั้งแม่แท้ๆ คลอด 2 เด็กแฝดต้องเสียชีวิต ระยะเวลาผ่านไป 7 ปี พ่อแท้และว่าที่แม่เลี้ยง ไม่เคยมาดูแลเลี้ยงดู จนเกิดความห่างระหว่างเด็กกับพ่อ
loading...
วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี คุณยายของเด็ก และนางปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี ป้า ชาว ต.โคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พากันร่ำไห้ด้วยความคิดถึงน้องใบบัว และน้องใบตอง หลานสาวฝาแฝดที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งอายุได้ 7 ขวบ ก่อนถูกนายสุรชัย พลอยไป ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ กับพวก ได้มารับเอาตัวไป ทั้งที่เด็กไม่ยินยอมไปจากยายและป้า เพราะว่าไม่อยากไปจากยายและป้าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดและมีความผูกพันกันมาก โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อของตนเอง แต่สุดท้ายเด็กทั้ง 2 คน ก็ถูกคนที่เป็นพ่อและกลุ่มญาติพี่น้องนำตัวขึ้นรถปิคอัพไปได้ในที่สุด

 นางปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นป้าของเด็ก เล่าว่า นับตั้งแต่นางไพรวัลย์ พวงท้าว น้องสาวของตนได้คลอดลูกสาวฝาแฝด คือน้องใบบัว และน้องใบตองได้เสียชีวิตไป ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.2553 ตนและนางเสาร์ ซึ่งเป็นพี่สาวและแม่ของนางไพรวัลย์ ก็ได้นำหลานฝาแฝดทั้ง 2 คนมาเลี้ยงดูตั้งแต่เกิด โดยพากันมาอยู่ที่บ้านหนองโปร่งแห่งนี้ จนกระทั่งน้องใบบัวและน้องใบตอง อายุได้ 7 ขวบ และขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ร.ร.บ้านอีหล่ำ ต.อีหล่ำ อ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งหลานสาวทั้ง 2 คน เป็นเด็กที่น่ารัก สุภาพเรียบร้อย ทำให้เป็นที่รักของตนและญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างมาก
loading...
แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา นายสุรชัย พลอยไป ซึ่งเป็นพ่อของน้องใบบัวและน้องใบตอง ได้นำตำรวจและคนที่อ้างว่าเป็นทนายความ มาที่บ้านและจะมานำเอาเด็กทั้ง 2 คนไปเลี้ยงดู ทำให้ตนและนางเสาร์ไม่ยินยอมพร้อมใจ เนื่องจากว่าได้เลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คน มาตั้งแต่แบเบาะ จึงทำให้มีความรักความผูกพันหลานฝาแฝดเป็นอย่างมาก สุดท้ายพ่อของเด็กได้ให้ตำรวจมานำตนและยายพร้อมด้วยหลานสาวทั้ง 2 คนไปที่ สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า จะยินยอมให้หลานสาวฝาแฝดไปอยู่กับนายสุรชัย ทโดยได้มีการเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊ค Eggnoid Thanapat Boonaree   โดยระบุข้อความว่า ….

“อยากทราบว่าทนายมีสิทธิมาดึงเด็กไปขึ้นรถหรือป่าว?? #ท่านใดมีความรู้ขอความแนะนำด้วยค่ะ #สงสารเด็กค่ะ ไม่ใช่ว่าทางเราไม่ให้เด็กแต่คือหัวอกของคนเลี้ยงคือเด็กร้องแต่พวกคุณยังกล้าดึงไป เลี้ยงมา 7 ปี เด็กร้องจนใจจะขาด คุณธรรมของพวกคุณอยู่ไหน!! #เหตุเกิดที่สถานีตำรวจอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ บ้านหนองโปร่ง ต.โคกหล่าม #ขอความเป็นธรรม”
loading...
ต่อมาผู้โพสต์ระบุความว่า “ทางเราเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่เล็กจนโตเป็นเวลานานถึง 7 ปี มีทั้งความรักความผูกพันธ์ พอมาถึงวันนี้คุณผู้ที่มีสิทธิเป็นพ่อทางกฎหมาย มาใช้กฎหมายนำตัวเด็กไปทั้งๆที่ความผูกพันธ์ของคุณกับเด็กไม่มีเรย ทางเราไม่เคยกีดกันคุณกับลูกเรย ทางเรายินยอมให้ไปกับคุณ แต่เด็กเค้าไม่ยินยอมที่จะไป คุณดึงลูกคุณไปขึ้นรถทั้งๆที่เด็กร้องแทบจะตาย หัวอกของคนเลี้ยงที่มีความผูกพันธ์เมื่อเห็นน้ำตาเด็กเราก้อสงสารที่ปกป้องเด็ก่เลี้ยงมาตั้ง 7 ปี ไว้ไม่ได้ ความเป็นพ่อของคุณยังมียุไหมคุณเห็นบุคคลอื่นมาดึงลูกคุณไปแร้วเด็กร้องไห้แต่คุณกลับยืนดู คุณเคยกอด เคยหอม เคยพูดคำว่าพ่อออกจากปากคุณไหม?? ทางเราไม่คิดว่าคนเป็นพ่ออย่างคุณจะใจดำขนาดนี้ ทำไมคุณไม่มาสร้างความผูกพันธ์กับลูกคุณ ขนาดเด็กร้องเด็กยังไม่ร้องหาคุณเรย เด็กร้องไห้เพื่อจะอยู่กับคนเลี้ยงที่มีความผูกพันธ์กันกับเด็กแต่คุณก้อยังบังคับให้เด็กขึ้นรถไปกับคุณ #ถามตัวคุณดูว่าแบบนี้เค้าเรียกว่าพ่อหรือป่าวหรือแค่พ่อทางกฎหมายเท่านั้น #ท่านใดมีข้อแนะนำขอความกรุณาช่วยด้วยนะค่ะทางเราจะขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง #ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยค่ะ #ขอบคุณค่ะ”

ล่าสุดในวันนี้(24 เม.ย 60) ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว “เกิดผล แก้วเกิด” โดยระบุข้อความว่า…..
loading...
นิทานชาดก

หญิง ๒ คนเดินแย่งเด็กผ่านมาทางศาลา ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนั้น มโหสถทราบเรื่องจึงให้พาหญิงสองคนมาพบแล้วให้มีการพิสูจน์ โดยให้ขีดรอยลงที่พื้นดิน แล้วให้วางเด็กขวางที่รอยขีดนั้น จากนั้นให้หญิงคนหนึ่งจับมือเด็กไว้ แล้วให้หญิงอีกคนจับขาเด็กไว้ แล้วบอกให้ทั้งคู่แย่งเด็กกัน ถ้าใครแย่งได้ถือว่าเป็นแม่ที่แท้จริง

ครั้นตกลงกันได้อย่างนี้แล้ว มโหสถก็สั่งให้หญิงทั้ง ๒ คนนั้นแย่งเด็กกัน หญิง ๒ คนต่างฝ่ายต่างดึงกันไปดึงกันมา จนเด็กทนเจ็บไม่ไหวร้องไห้จ้า พอได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เช่นนั้น หญิงคนที่จับเท้าก็รีบปล่อยมือทันทีเพราะรู้สึกสงสารเด็ก ฝ่ายหญิงคนที่จับมือไม่ยอมปล่อย

มโหสถจึงตัดสินทันทีว่า หญิงคนที่รีบปล่อยเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องคือแม่ที่แท้จริงของเด็ก เพราะอาศัยความรู้สึกที่ว่า ธรรมดาหญิงที่เป็นแม่นั้นย่อมมีหัวใจอ่อนโยน และความจริงก็เป็นเช่นนั้น เพราะหญิงที่ไม่ยอมปล่อยเด็กนั้นแท้จริงก็คือนางยักษิณีปลอมมา

ในคดีความ ศาลจะพิจารณาถึงสถานะทางกฎหมาย และความผาสุขของเด็กเป็นหลัก
ความสัมพันธ์ไม่อาจหักล้างคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลได้

แต่…ก็ควรจะคำนึงถึงหัวใจเด็กน้อยสักนิด

ล่าสุด นายสุรชาติ แก้วศิลา นายอำเภออุทุมพรพิสัย ได้สั่งการให้ นายวิบูลย์ กิ่งสุวรรณ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอ เข้าพื้นที่ตรวจสอบจากชาวบ้าน มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ระหว่างที่แม่เลี้ยงฉุดขึ้นรถ เด็กทั้ง 2 คน ร้องไห้ลั่นสถานีตำรวจ แต่ญาติไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะกฎหมายมอบสิทธิ์ให้พ่อ แต่เพื่อความปลอดภัยของเด็ก จึงประสานเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง สวัสดิการและคุ้มครองเด็ก ตามที่อยู่ของพ่อเด็กหญิงแฝด เพื่อตรวจสอบร่วมกัน
 
loading...

loading...

ที่มา:http://www.siamvariety.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น